น้องอั๊ตกับการคัดลายมือ
ติดต่อลงโฆษณา
Leaderboard in Content 1st
Fixed 1,000 baht/month
Slot 300 baht/month
ในขวบปีที่ห้านี้ แม่ก็เห็นเขาวาดมากขึ้น กล้าวาดมากขึ้น จากครึ่งปีก่อนหน้านี้ที่วาดภาพน้อย ไม่ค่อยอยากวาด แม่เดาเอาว่า อั๊ตคงรู้สึกว่าควบคุมมือให้วาดได้ดังใจไม่ได้  แต่ตอนนี้ ภาพวาดของอั๊ต น่ารัก แสดงสิ่งที่อั๊ตชอบและสนใจได้มีรายละเอียดดี

การทำโฮมสคูลลูก ทำให้เราพ่อแม่ต้องมีกุศโลบายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ลูกๆ ได้ฝึกฝนทักษะบางอย่าง ที่แม่ชวนลูกๆทำนั้น เขามักปฏิเสธ อาจเพราะเบื่อแล้ว แรกๆ ที่อยู่บ้าน แม่ก็ชวนทำแบบฝึกหัดโน่นนี่ไปเรื่อย เด็กๆ ยังสนุกอยู่ก็เลยทำ แต่ต่อมาเริ่มชวนไม่ได้ผล  เพราะเขามีบางสิ่งที่เขาอยากทำและมันสนุก   การคัดลายมือ ก็เป็นอย่างหนึ่ง ที่ลูกๆ มักปฏิเสธ ไม่อยากทำ เมื่อเราชักชวนให้ทำตรงๆ

คิดว่าน่าจะเป็นความน่าเบื่อ ที่จะต้องคัดตัวเดิมซ้ำๆ กัน ตั้งหนึ่งหน้ากระดาษ (แต่ถ้าอยู่โรงเรียน คุณครูมีคะแนน มีไม้เรียวบังคับอยู่) อันนี้ลูกสาวคนโต ปันปัน แสดงออกให้เห็นชัด ปันปันชอบที่จะเขียนเป็นประโยคตามใจเขาที่อยากจะเขียนเล่าเรื่องไปเลย มากกว่าที่จะให้เขาคัด  ส่วนน้องอั๊ตนั้น ตอนนี้ ห้าขวบแล้ว แต่ความสนใจในการอ่านและเขียนตัวอักษรยังแสดงออกน้อย แต่ออกมาในรูปการวาดภาพมากกว่า

ในขวบปีที่ห้านี้ แม่ก็เห็นเขาวาดมากขึ้น กล้าวาดมากขึ้น จากครึ่งปีก่อนหน้านี้ที่วาดภาพน้อย ไม่ค่อยอยากวาด แม่เดาเอาว่า อั๊ตคงรู้สึกว่าควบคุมมือให้วาดได้ดังใจไม่ได้  แต่ตอนนี้ ภาพวาดของอั๊ต น่ารัก แสดงสิ่งที่อั๊ตชอบและสนใจได้มีรายละเอียดดี



ภาพรถไฟ


ภาพรถแทรกเตอร์ แบบมีแขนตักโกย

ช่วงเทอมแรกที่ผ่านมา พ่อก็เลยออกอุบายเล็กน้อย บอกว่าคุณลุง (อ้างถึงคนที่เขตพื้นที่การศึกษา ที่เราไปขึ้นทะเบียนบ้านเรียนไว้) ส่งการบ้านมาให้ทำ ถ้าไม่ทำ คุณลุงอาจจะให้พ่อแม่ส่งพวกหนูไปโรงเรียนนะ  แล้วพ่อก็หาแบบฝึกหัดมาให้เด็กๆ ทำคนละหน้าทุกวัน

แน่นอนค่ะ สำหรับน้องอั๊ต ถ้าเทียบก็น่าจะอยู่ชั้นอนุบาล การบ้านก็คงไม่พ้นการคัด ก.ไก่ ข.ไข่  พ่อก็พิมพ์แบบคัดลายมือมาให้เขาทำ เริ่มจาก ก.ไก่  ตัวแรกนี้ ก็กว่าจะทำหมดหน้า ลุ้นกันพักใหญ่
 ตัวต่อมาก พ่อให้ ภ.สำเภา  พ่อบอกอั๊ตว่า ก.ไก่ มันเตะบอล เลยกลายเป็น  ภ.สำเภาไง  ถัดมา ถ.ถุง   ก็ คือ ก.ไก่ เก็บลูกบอลไว้

คือเริ่มจากตัวที่มีลักษณะคล้ายๆกัน ช่วงนี้ น้องอั๊ตไม่ค่อยอยากคัดเลย ลีลามั่กๆ บางครั้งต่อรองกันทีละตัว ทีละบรรทัดเลย  เลยรูสึกว่า เขาคงจะไม่อยากเขียน  ช่วงนี้คัดไปได้ไม่กี่ตัว แสนยากเย็น พอดีตรงช่วงปิดเทอม พ่อเลยบอกลูกๆว่า งดการบ้านหนึ่งเดือน

เปิดเทอมต่อมา พ่อเริ่มหาการบ้านใหม่มาให้ทำใหม่ คราวนี้ พ่อชวนน้องอั๊ตทำไปด้วยกันตอนหัวค่ำหลังมื้อเย็น ขณะที่พ่อนั่งถักนิตติ้ง ทำอะไรไปเรื่อย เหมือนเวลาทองของเขาเลยค่ะ เพราะพ่อทำงานทั้งวัน ตลอดวันลูกๆ อยู่กับแม่จนเคยชิน บางทีพ่อกลับมาอยู่กับเขาชวนเขาทำการบ้าน เลยเหมือนเป็นช่วงเวลาพิเศษ  อั๊ตทำการบ้านเสร็จเร็วมาก จริงๆถ้าเขาตั้งใจทำดีๆ ไม่กี่นาทีก็เสร็จ พ่อแม่ก็แจกคำชมซะ อั๊ตตัวลอย การบ้านครั้งถัดมาก ก็รวดเร็วเช่นเดิม

จากวันนั้นจนวันนี้ ก็หลายวันแล้ว แต่ละวัน เขาก็หยิบมาทำเอง บางวันอาจทำตอนเช้า บางวันอาจทำตอนบ่ายหลังจากที่เขาเล่น หรือทำสิ่งที่เขาอยากทำแล้ว  แต่ก็ไม่รู้จะได้นานเท่าไรนะคะ ที่แน่ๆ ตอนนี้เขาภูมิใจกับการทำการบ้านคัดลายมือเสร็จได้เร็ว และสวยงาม  หน้าที่ของพ่อแม่อย่างเราคือ หล่อเลี้ยงรักษาความภูมิใจอันนี้ ให้ยาวนาน ต่อเนื่องไปยังการเรียนรู้อื่นๆ

หลายคนคงมีคำถามว่า การคัดลายมือ จำเป็นไหม เพราะพอเราโตๆขึ้นมาแล้ว เราก็ไม่ยักใช้ลายมือคัดสวยๆกันสักเท่าไร ลายมือไม่เกี่ยวกับสมอง คนเป็นหมอเป็นวิศวกร ลายมืองี้ อ่านไม่ค่อยออก แต่เขาก็เก่งๆกัน  อะไรทำนองนี้ ค่ะบ้านเราก็ไม่ปฏิเสธความคิดเช่นนั้น ทำให้เราไม่ได้เคี่ยวเข็ญปันปันลูกสาวคนโต ซึ่งเขาพออ่านออกเขียนได้แล้ว แต่เราจะชื่นชมเขาเป็นพิเศษเวลาเขาเขียนลายมือสวย  แต่สำหรับกรณีของน้องอั๊ต ซึ่งยังไม่ค่อยสนใจในการอ่านเขียน เราอยากให้เขาเรียนรู้ รู้จักตัวอักษรไปทีละตัว จากการคัด และลำดับอักษรที่ทยอยออกมาให้เขาคัด เราจะให้เขาสังเกตความแตกต่างระหว่างตัวอักษรสองตัว ที่คล้ายๆกัน เพราะเราสังเกตว่า อั๊ตยังจำตัวอักษรได้ไม่หมดทุกตัว ถ้าให้เขาอ่านชาร์ต ก.ไก่ เขาจะอ่านได้ เพราะมีรูปภาพอยู่ด้วย ดังนั้น การค่อยๆให้เขาคัดแบบนี้น่าจะช่วยได้ แบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป