ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
ปกติแล้วเด็กก็ซนตามวัย แต่เราก็คอยสอนไม่ให้ไปละเมิดไปทำข้าวของเสียหาย หรือไปทำให้คนอื่นเขารำคาญ มีกรณีอารมณ์ขึ้น ร้องไห้ในที่สาธารณะไหม เหมือนจะเคยมีบ้าง เราก็จะพาออกจากตรงนั้น ออกจากพื้นที่มาก่อน ที่เคยทำคืออุ้ม กอดไม่ให้อาละวาด แล้วก็พูดซ้ำๆ เสียงเรียบๆ ไม่ขึ้นเสียงใส่ พูดแค่ หายใจๆๆ ซ้ำๆ พอเขาหันมาฟัง ก็ให้ไปล้างหน้า ให้เดินไปเอง ปกติตรงนี้จะมีสติขึ้นแล้ว แต่อาจจะยังไม่หยุดร้อง ก็จะให้ไปล้างหน้าอีกรอบ ก็จะค่อยๆ สงบลง
มีคลิปที่แชร์ๆ กันประมาณว่าลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
 
เอาเฉพาะลูกเรา ก็มานั่งนึกว่าเคยทำอะไรแบบนี้ไหม ดูเหมือนไม่มี หรือเพราะเป็นพ่อแม่เองเลยไม่ค่อยรู้ตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้
 
ปกติแล้วเด็กก็ซนตามวัย แต่เราก็คอยสอนไม่ให้ไปละเมิดไปทำข้าวของเสียหาย หรือไปทำให้คนอื่นเขารำคาญ มีกรณีอารมณ์ขึ้น ร้องไห้ในที่สาธารณะไหม เหมือนจะเคยมีบ้าง เราก็จะพาออกจากตรงนั้น ออกจากพื้นที่มาก่อน ที่เคยทำคืออุ้ม กอดไม่ให้อาละวาด แล้วก็พูดซ้ำๆ เสียงเรียบๆ ไม่ขึ้นเสียงใส่ พูดแค่ หายใจๆๆ ซ้ำๆ พอเขาหันมาฟัง ก็ให้ไปล้างหน้า ให้เดินไปเอง ปกติตรงนี้จะมีสติขึ้นแล้ว แต่อาจจะยังไม่หยุดร้อง ก็จะให้ไปล้างหน้าอีกรอบ ก็จะค่อยๆ สงบลง
 
ตอนโตขึ้นหน่อย จากกอดจะเป็นการจับข้อมือ จับที่ชีพจรข้อมือ หรือจับที่หัวใจ ให้ลูกรู้สึกถึงจังหวะของชีพจร จะบอกเขาว่าตุบๆๆ หรือไม่ก็หายใจๆๆ เหมือนเดิม
 
อาจจะเพราะตั้งแต่เล็กๆ มาก็สอนให้ฟังเสียงหัวใจของพ่อ ของแม่ แล้วก็หัดให้จับชีพจรตัวเอง ฟังเสียงหายใจตัวเอง พ่อจับไปด้วยส่งเสียงบอกจังหวะ ตุบๆๆ ไปด้วย หรือบางทีก็ให้ฟังเสียงหัวใจพ่อที่เต้นช้ากว่า แล้วก็ใช้จังหวะตุบๆๆ จากหัวใจพ่อทำให้ลูกสงบลง ผลัดกันจับชีพจรกันเล่นกันเรื่อยๆ นอกจากนั้นสอนให้ฟังเสียงลมหายใจตัวเอง สอนให้นึกถึงลมหายใจ เวลามีอะไร หรือต่อให้ไม่มีอะไร ว่างๆ ก็ลองสังเกตลมหายใจตัวเอง ดูลมไป ดูลมบ้าง จับชีพจรบ้าง สลับกันไป ทำเล่นยามว่างก็ได้
 
เวลาลูกอารมณ์ขึ้นจะหายใจถี่ หรือชีพจรเต้นเร็วขึ้น การจับชีพจรเขา แล้วให้เขามาจับชีพจรเรา ก็จะช่วยดึงให้ชีพจรลูกช้าลง แล้วที่ให้หายใจก็ค่อยๆ ให้เขาหายใจลึกขึ้น ยาวขึ้น พูดว่าหายใจๆ ตามจังหวะหายใจของลูกเลย แล้วค่อยๆ พูดนำให้ช้าลงๆ ก็ได้ผลดี
 
หรือตอนเล็กกว่านั้นก็สอนด้วยการตีเบาๆ เล็กๆ ก็ตีก้นเบาๆ เวลาจะให้หลับ โตมาหน่อยก็ขอมือ แล้วก็ตีมือ ข้างละที พอมีอะไรเราก็ขอมือ ถึงจะร้องไห้อยู่ลูกก็จะส่งมือมาใ้ห้โดยอัตโนมัต เพราะขอมือเป็นประจำอยู่แล้ว เราก็ตีเบาๆ ไป ตีเพื่อเรียกสติ ไม่ใช่ตีลงโทษหรือตีให้เจ็บ พอพูดกันรู้เรื่องก็ต่อด้วยตุบๆ ฟังเสียงหัวใจ หรือบอกให้หายใจๆ ก็จะสงบ ตีมือนี่จำได้ว่าทำจนถึงสี่ห้าขวบ ตื่นเช้ามาก่อนออกไปไหนก็ขอมือ ลูกจะส่งมือมาให้ พ่อก็ตีมือข้างละที กลายเป็นธรรมเนียมไป ก่อนออกจากบ้าน พอร้องไห้ปุ๊บ ก็ขอมือ ลูกก็ร้องไปส่งมือมาด้วย ก็ตีเบาๆ แล้วก็ให้ไปล้างหน้า
 
อีกวิธีหนึ่ง เป็นวิธีของพี่เข้ม ตอนเด็กๆ เข้มจะเล่าว่าเข้มเป็นกล้องวงจรปิด เข้มจะมองจากข้างนอกเข้ามา ดูเหตุการณ์นั้น (ที่ตัวเองก็กำลังแสดงอยู่) ในฐานะบุคคลที่สาม พี่เข้มแยกจิตแล้วมองเข้ามาได้เองตั้งแต่เด็กๆ เลย สักสี่ห้าขวบได้
 
พอลูกโตขึ้น บางทีไปที่อื่นเอง ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่เวลาอารมณ์ขึ้น หรือมีปัญหา ลูกก็จะเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้น หรือใช้วิธีขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ แล้วโทรหาพ่อหรือหาแม่ หายใจ ล้างหน้า ตุบๆ บอกทางโทรศัพท์ได้เลย ถ้าเขาคุ้นเคย ทำเป็นประจำอยู่แล้ว จะง่ายมากที่ทำให้ลูกสงบได้
เป็นประสบการณ์การเลี้ยงลูกนะครับ อาจจะได้ผลต่างกันในเด็กแต่ละคน แม้แต่เด็กที่บ้านก็ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ ...แล้วจริงๆ เรามีเคสเองไม่เยอะ นึกๆ ดูเหมือนลูกจะร้องไม่เยอะ แล้วก็หยุดได้ค่อนข้างเร็ว ส่วนการไปละเมิดผู้อื่นให้เดือดร้อนรำคาญทำข้าวของเสียหาย อันนี้นึกไม่ออก ไม่มีละมั้ง
 

by Jo on Jun 13, 2019

Posted in เรื่องเล่าโฮมสคูล

ป้ายคำค้น

ในหมวดเดียวกัน
ป้ายคำค้นเดียวกัน

โปรเจ็กต์ของผู้แต่ง