งานร้อยลูกปัด ฝึกพัฒนาการเด็กหลายด้าน
ติดต่อลงโฆษณา
Leaderboard in Content 1st
Fixed 1,000 baht/month
Slot 300 baht/month
พัฒนาการด้านร่างกาย : มาตรฐานที่ 2 กล้ามเนื้อใหญ่ และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสัมพันธ์กัน พัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ : มาตรฐานที่ 5 มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจดีงาม พัฒนาการด้านสติปัญญา : มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้

การร้อยลูกปัด กับ #การพัฒนาสมอง ทั้ง 2 ซีก

เวลาที่ครูประเมินพัฒนาการเด็กอายุ 1.9 - 3.6 ขวบ กิจกรรมรายการหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือการร้อยลูกปัด

เพราะการร้อยลูกปัดสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการการใช้มือทั้ง 2 ข้างของเด็กว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด มือและตาทำงานสัมพันธ์กันหรือไม่ พื้นอารมณ์ของเด็กเป็นเด็กใจร้อนหรือใจเย็น รวมถึงมีความจดจ่อ / สมาธิ และความเพียรพยายามมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญที่สุดคือเห็นถึงการให้ความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการให้ลูกของแต่ละครอบครัว

การส่งเสริมพัฒนาการโดยให้เด็กร้อยลูกปัดหรือวัตถุที่มีรูผ่านเชือก มีประโยชน์ต่อเด็กในประเด็นต่างๆดังต่อไปนี้

(1) ทักษะการใช้มือสองข้าง และกล้ามเนื้อมัดเล็กได้รับการส่งเสริมให้ทำงานร่วมกันอย่างเป็นกระบวนการ มือขวาถือปลายเชือก มือซ้ายถือลูกปัด เมื่อนำลูกปัดใส่ลงที่ปลายเชือกเรียบร้อยแล้ว มือซ้ายต้องจับปลายเชือกที่โผล่ขึ้นมา และมือขวาลาก/ดึงลูกปัดให้ไปสู่ปลายทาง เมื่อเด็กใช้สองมือได้อย่างคล่องแคล่วก็ทำให้ปฏิบัติกิจวัตรในชีวิตประจำวัน และช่วยเหลือตัวเองได้ดีตามไปด้วย

(2) สมองทั้ง 2 ซีกทำงานอย่างสมดุลกัน เพราะสมองซีกซ้ายควบคุมการทำงานของร่างกายด้านขวา และสมองซีกขวาควบคุมการทำงานของร่างกายด้านซ้าย เมื่อเด็กใช้สองมือได้คล่องแคล่วก็เท่ากับว่าสมองทั้งสองซีกได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆกัน

(3) มือและตาทำงานสัมพันธ์กัน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "Eye-Hand Coordination" เมื่อมือทำอะไรก็ตาม ตาก็จ้องแลมองสิ่งนั้นไปด้วย ถ้ามือทำแต่ตามองอย่างอื่น กิจกรรมต่างๆก็เสร็จช้าหรือไม่สำเร็จ ถ้าพ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมนี้ก็ทำให้เด็กม่ควบคุมตัวเองหรือไม่สนใจสิ่งที่ต้องทำตรงหน้า เด็กที่มีปัญหาด้านสมาธิมักมีเรื่องมือตาทำงานไม่สัมพันธ์กันร่วมด้วย

(4) เป็นการจัดระเบียบร่างกายส่วนบน (ตั้งแต่ศีรษะถึงเอว) ให้ตั้งตรง มั่นคงพร้อมที่จะทำกิจกรรมหรืองานต่างๆตามวัยให้ได้ผลดี เช่น การเขียนตัวหนังสือ การอ่าน การทำงานศิลปะ การรับประทานอาหาร เป็นต้น สรีระและท่านั่ง (Posture) มีความสำคัญยิ่งต่อความจดจ่อ การมองเห็น และการใช้อวัยะวะต่างๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เด็กที่ชอบนั่งคอเอียง เอาหัววางกับโต๊ะ เท้าคาง หรือเอาคางวางไว้กับโต๊ะ และหลังงอจะเกิดการเรียนรู้ และมีความจำน้อยกว่าเด็กที่มีการจัดร่างกายส่วนบนอย่างถูกต้อง

(5) สร้างนิสัยจดจ่อ/มีสมาธิให้แก่เด็ก เพราะเด็กต้องลงมือทำในแต่ละขั้นตอนให้สำเร็จด้วยสองมือและตาของตนเอง

(6) รู้จักความเพียรพยายาม ในครั้งแรกๆที่เด็กทำไม่ได้ เด็กจะลองถูกลองผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนี่คือจุดเริ่มต้นของความเพียรพยายามซึ่งเป็นลักษณะนิสัยที่สำคัญของคนที่จะประสบความสำเร็จต่อไป #ลักษณะของลูกปัดหรืออุปกรณ์ที่เหมาะกับเด็กวัย 1.9 - 3 ขวบขึ้นไป - เชือกต้องใหญ่ จับถนัดมือ เส้นไม่เล็กจนเด็กควบคุมการจับลำบากหรือหลุดมือง่าย - ปลายเชือกเป็นไม้หรือวัสดุแข็งเพื่อเอื้อต่อการใส่ลูกปัด - ลูกปัดใหญ่ เด็กหยิบถนัดมือ - ขนาดของรูร้อยต้องใหญ่ประมาณ 0.5 - 1 cm. เมื่อเด็กโตกว่านี้ค่อยๆลงขนาดของอุปกรณ์ทั้งหมดลงตามลำดับขั้นของพัฒนาการ - พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูควรคำนึงถึงความปลอดภัยของไม้หรือวัสดุ เช่น ไม่มีเสี้ยน สีที่ใช้ในการผลิตต้องไร้สารพิษ ขนาดของลูกปัดที่เล็กมีความเสี่ยงต่อการติดคอเมื่อเด็กนำเข้าปากหรือยัดไส้รูจมูก

ขอบคุณข้อมูลจาก Play Academy Thailand

ติดตามจ๊ะจ๋า กับกิจกรรมโฮมสคูลบ้านเรียนอธิษฐาน ได้ที่
เพจเฟสบุค👉 เด็กบ้านบ้าน 📌https://m.facebook.com/ordinaryparenting
เพจของครอบครัว 👉พึ่งตนเองต้องรอด Be Self-Reliant by Dao📌 https://m.facebook.com/SelfReliantByDao/
ช่องยูทูปของครอบครัว Ja Jah Family 👉 https://www.youtube.com/c/JaJahFamiLy

by นัชชา on Mar 26, 2022

Posted in ร่องรอยการเรียนรู้

ติดต่อลงโฆษณา
Medium Rectangle Sidebar 1st
Fixed 1,000 baht/month
Slot 300 baht/month

ป้ายคำค้น

ในหมวดเดียวกัน
ป้ายคำค้นเดียวกัน

โปรเจ็กต์ของผู้แต่ง