คำถามคือ ถ้าตกลงใจจะจัดการศึกษาโดยครอบครัวแล้ว พ่อแม่ลูกต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

เริ่มจากลูก ส่วนมากก็คิดกันว่าเด็กจะต้องมีวินัย จัดการตนเองได้ เรียนรู้เองได้ ขยันอดทนเข้มแข็ง หรือต้องค้นพบหรือมีแนวทางของตนเองแล้ว

เริ่มต้นทำ homeschool #3

คำถามคือ ถ้าตกลงใจจะจัดการศึกษาโดยครอบครัวแล้ว พ่อแม่ลูกต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

เริ่มจากลูก ส่วนมากก็คิดกันว่าเด็กจะต้องมีวินัย จัดการตนเองได้ เรียนรู้เองได้ ขยันอดทนเข้มแข็ง หรือต้องค้นพบหรือมีแนวทางของตนเองแล้ว

เฉลยคำตอบก่อนเลยคือไม่ต้องครับ เด็กก็คือเด็กธรรมดาๆ ถ้าเก่งเป็นเทพมาแล้วก็ไม่ต้องมาจัดการศึกษาอะไรกันแล้ว เด็กไม่ต้องมีคุณสมบัติพิเศษอะไร ใสๆมาเลยก็ได้ หรือโดนทำร้ายร่างกายจิตใจมาก็ได้ หรือปกติจนไม่รู้จะปกติอย่างไร หรือดื้อซนติดเกมติดการ์ตูนมาก็ได้ อะไรก็เป็นได้ ก็แก้ไขกันตามเหตุปัจจัย เด็กมีพื้นฐานมาอย่างไร เราก็เพียงจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับที่มาเหล่านั้น นอกจากพ่อแม่ give up แล้วส่งเข้าโรงเรียนไปก็ถือว่าจบเรื่องบ้านเรียน จบเรื่อง homeschool ไปเครียดเรื่องโรงเรียนต่อ

ทีนี้มาคุณสมบัติพ่อแม่ ก็ไม่มีอะไรอีกครับ ไม่ต้องเก่ง strong มีเงินถุงถังมา หรือต้องว่างจัดงานการไม่ต้องทำ

พ่อแม่ก็พิจารณาความพร้อมของตนเองไปตามเหตุปัจจัยครับ ตั้งแต่เรื่องเวลาที่ต้องใช้ งบประมาณ การศึกษาหาความรู้ แน่นอนว่าไม่มีอะไรดีพร้อม ไม่มีที่ได้ดังใจทุกอย่าง พ่อแม่ไม่ต้องเปรียบเทียบคุณสมบัติของตนเองกับครอบครัวอื่น มีน้อยหรือหาได้น้อยก็ค่อยใช้แต่น้อย มีเวลาน้อย แม่ต้องไปทำงาน ก็ต้องวางแผนจัดสรรเวลา หรือมองหาที่ฝากลูก ฝากญาติได้ไหม หรือเพื่อนบ้าน หรือแม่จะลาออกจากงานเดิมมาค้นหาเส้นทางใหม่ๆในชีวิต (แนวนี้ก็เจอไม่น้อย) หรือถ้าลูกโตสักหน่อย ก็ต้องทำใจและเชื่อใจลูกในการจะปล่อยให้เจ้าตัวจัดการตนเอง

การจัดการศึกษาโดยครอบครัว เป็นการทำงานร่วมกันของครอบครัว เดินทางร่วมกัน ผจญภัย ค้นหาเส้นทางและความรู้ใหม่ๆไปด้วยกัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะผิดหรือถูก หากทำอะไรแล้วคิดว่าผิดก็แค่แก้ไข ปรับปรุง ปรับตัว ใช้ปัญหาและอุปสรรคเป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้ ไม่ว่าด้านบวกหรือลบ ทำผิดก็ทำใหม่ ทำจนกว่าจะถูก แล้วก็ก้าวเดินต่อไป ก้าวเดินไปด้วยกันกับลูก เดินไปด้วยกันทั้งครอบครัว

ถ้าลูกโต เป็นวัยรุ่น ระดับประมาณมัธยมขึ้นไป พ่อแม่ควรรู้จักถอยและเปิดพื้นที่ เปิดเวทีให้ลูกได้มีโอกาสเรียนรู้ด้วยตนเอง มีโอกาสได้จัดการตนเอง พ่อแม่อย่าเพิ่งรีบรำคาญ อย่าเพิ่งรีบเข้าไปช่วยลูกทำงาน เปลี่ยนจากการบ่นหรือดุด่าว่ากล่่าว มาเป็นฟังลูกคุย ฟังเรื่องราวและความสนใจของเขา แล้วค่อยๆ ให้คำแนะนำไปธรรมดาๆ หรือคอยช่วยสนับสนุนด้านการเงินหรือแนวคิด จนถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ...อินเตอร์เน็ตช่วยได้เยอะมาก

ต้นฉบับ https://www.facebook.com/HomeUnschool/posts/2382828145101947

• Previous
• Next