Home School เรื่องน่าตื่นเต้นกับครอบครัวแซ้ปป์ พ่อแม่+ลูก 4 คน ออกผจญโลกไปในประเทศต่างๆ เป็นเวลา 11 ปี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอแนะนำครอบครัว แซ้ปป์ แห่งอาร์เจนตินา ซึ่งมี เฮอร์แมน แคนเดอร์ลาเรีย และลูกๆ ทั้งสี่ ครอบครัวนี้รักการเดินทางท่องเที่ยวแบบสุดๆ และไม่เหมือนใคร เพราะพวกเขาออกท่องผจญโลกไปในประเทศต่างๆ เป็นเวลา 11 ปี เป็นการเดินทางแบบรวดเดียว โดยไม่ได้กลับมาที่อาร์เจนตินาเลย

การเดินทางอันยาวนานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานนี้ เริ่มต้นจากความฝันที่จะเดินทางรอบโลกของทั้งสามีภรรยาคู่นี้ ตั้งแต่เป็นแฟนกัน เฮอร์แมนเกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา แต่ย้ายมาอยู่กับปู่ที่อาร์เจนตินาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 10 ขวบเฮอร์แมนได้รู้จักกับภรรยาในอนาคต ซึ่งตอนนั้นเธออายุ 8 ขวบ

หลังจากแต่งงานกันในปี 2539  ทั้งสองวางแผนจะตั้งรกรากอยู่ที่อาร์เจนตินา เฮอร์แมนเปิดบริษัทเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ พวกเขามีบ้านสวยพร้อมสระว่ายน้ำด้วย

“ครอบครัวเรามีความสุขมากที่อาร์เจนตินา พวกเรามีพร้อมทุกสิ่ง” เฮอร์แมนเล่า แต่ทั้งสองก็รู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทำตามความฝัน จนกระทั่งปี 2543 ทั้งสองจึงได้เริ่มทำตามความฝัน โดยเดินทางจากกรุงบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินาไปยังอลาสก้าโดยทางรถ

“พวกเราคิดกันว่า ถ้ามีลูก เราคงไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ เราจึงวางแผนไปอลาสก้ากัน 2 คนและวางแผนจะมีลูกเมื่อกลับมาแล้ว”  ตอนนั้นสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำได้ แต่ทั้งสองก็สามารถเดินทางไปถึงอลาสก้าซึ่งมีระยะทางประมาณ 44,000 ไมล์ได้ และด้วยความช่วยเหลือจากผู้คนในสถานที่ต่างๆ ให้ที่พัก อาหารและน้ำมัน เพราะพวกเขาเงินหมดตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการเดินทาง

พวกเขารู้สึกสนุกสนานกับการเดินทางทริปแรกและตัดสินใจเดินทางต่อ ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมการเดินทางเป็นระยะทางกว่า 145,000 ไมล์

ส่วนประกอบสำคัญในการเดินทาง คือ รถคันเก่งที่เป็นมรดกจากปู่ของเฮอร์แมน
“ปู่รู้ดีว่าพวกเราอยากท่องเที่ยว ท่านไม่เคยห้าม ท่านยังให้รถเกรแฮม-ไพเจ อายุ 83 ปีซึ่งท่านใช้ในฟาร์มกับผม ท่านว่า ถ้าหลานต้องการไปไกล ต้องไปอย่างช้าๆ รถอย่างนี้เหมาะกับการเดินทางของผม แต่ต้องวิ่งไม่เกิน 40 ไมล์ต่อชั่วโมง”  ครอบครัวนี้จึงเดินทางไปประเทศต่างๆ ในหลายทวีป เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี แคนาดาและนิวซีแลนด์ ด้วยรถคันเก่ง พวกเขาเดินทางอยู่ในออสเตรเลีย 1 ปี ในสหรัฐ 13 เดือน เมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาเดินทางไปยังบรูไนและมาเลเซีย ประสบการณ์การเดินทางมีตั้งแต่เกือบโดนปล้น โดนปฏิเสธวีซ่าและเกือบต้องกินเนื้อลิงและมดเป็น ๆ

รถคันเก่งเป็นทุกอย่างของพวกเขา เป็นที่พัก ครัวและโรงเรียน รถคันนี้ไปมาเกือบทุกแห่ง ยกเว้นถนนไฮเวย์ เพราะความเร็วถูกจำกัดอยู่ที่ 40 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น พวกเขาตั้งชื่อและนามสกุลรถคันนี้ว่า มาคอนโด้ คัมบาลาเช่  โดยชื่อมาจากเมืองในนวนิยายเรื่อง One Hundred Years of Solitude ของกาเบรียล การ์เซีย มาร์เคส นักเขียนรางวัลโนเบิลชาวโคลัมเบีย ส่วนนามสกุลมาจากชื่อเพลงแทงโก้ของอาร์เจนตินา แต่หลายครั้งที่รถมีปัญหา จนเขาเรียกมันว่า “คุณปู่”

เฮอร์แมนเล่าว่า ในการเดินทางไปแต่ละแห่ง พวกเขาไม่วางแผนว่าจะทำอะไรหรือมีตารางเวลา เพราะสถานที่แต่ละแห่งจะบอกเขาว่า ควรจะทำอะไร

ทั้งสองมีลูก 4 คนในระหว่างการเดินทาง 11 ปี ทั้งหมดเกิดในประเทศต่างๆ กัน เริ่มต้นด้วยแพมป้าเกิดที่สหรัฐอเมริกา เทฮิวเกิดที่อาร์เจนตินา พาโลม่าเกิดที่แคนาดาและวาลาบี้เกิดที่ออสเตรเลีย พวกเขาสอนหนังสือลูก ๆ ด้วยตัวเองหรือที่เรียกว่า โฮมสคูลและประสบการณ์ในระหว่างการเดินทางเป็นการให้การศึกษาที่ดีแก่ลูก ๆ 

“ลองคิดดูนะว่าจะเป็นการดีแค่ไหนสำหรับเด็กๆ ที่จะได้เรียนรู้จากสถานที่จริง ผมพาลูกๆ ไปดูการส่งกระสวยอวกาศขึ้นสู่ท้องฟ้า ให้ลูกได้พบหมีขาวตัวเป็นๆ ที่อลาสก้าหรือจิงโจ้ที่ออสเตรเลีย เด็กๆ ยังได้หัดพูดภาษาของประเทศนั้นอีกด้วย” เฮอร์แมนว่า

พอลลีน ฟรอมเมอร์ นักเขียนเรื่องท่องเที่ยวชื่อดัง ซึ่งเป็นลูกสาวของ อาร์เธอร์ ฟรอมเมอร์ กูรูไกด์บุ๊คกล่าวว่า เธอไม่เคยพบครอบครัวแซ้ปป์ แต่เธอเห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกของพวกเขา เพราะพ่อพาเธอออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่อายุ 4 เดือน ”ไม่มีการศึกษาใดที่จะดีเทียบเท่ากับการได้เห็นโลกด้วยตาตนเอง เด็กๆ จะได้เรียนว่า คนอื่นใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร”

ระหว่างเดินทาง ครอบครัวนี้เหมือนครอบครัวทั่วไป พวกเขาร้องเพลง เล่นเกมและฟังเพลงกัน ส่วนใหญ่เพลงที่ร้องเป็นเพลงภาษาสเปน แต่ก็ร้องเพลง แมงมุมลายตัวนั้นและโอสด์แม็ค โดนัลด์ หรือแม้แต่ We will rock you ของวงควีนด้วย

พวกเขามักได้เพื่อนใหม่ๆ เสมอ ครั้งหนึ่งรถสตาร์ทไม่ติดในเมืองปวยปลา อันสวยงามของเม็กซิโก เมื่อเขาเปิดฝากระโปรงรถ ก็มีชายชาวเม็กซิกันปรากฏตัวขึ้นที่ข้างรถและแนะนำว่า มีพิพิธภัณฑ์รถเก่าอยู่ใกล้ๆ พวกเขาถอดชิ้นส่วนรถเก่าคันหนึ่งออกและมอบให้ เพื่อมาเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสีย นอกจากไม่คิดค่าอะไหล่แล้ว เมืองนั้นยังจัดงานฉลองให้พวกแซ้ปป์ ซึ่งมีทั้งวงดนตรีและอาหารมากมาย

“ขอบคุณพระเจ้าที่ให้รถเราเสียที่เมืองนี้ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ได้มีงานฉลองแน่นอน”

พวกเขาได้รับความช่วยเหลือเกือบทุกที่ และหลายครั้งที่พวกเขานอนในบ้านคนแปลกหน้า การหาเงินสำหรับการเดินทางนานถึง 11 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ครอบครัวนี้สามารถทำได้ แคนเดอร์ลาเรียวาดภาพสถานที่ต่างๆ ที่เดินทางไปด้วยสีน้ำ เฮอร์แมนนำภาพมาใส่กรอบและขาย นอกจากนั้นยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์การเดินทางเรื่อง Spark Your Dream และขายดีทีเดียว พวกเขามีเว็บไซต์บอกเล่าเรื่องราว (Sparkyourdream.net)

เมื่อข่าวการเดินทางแพร่ออกไป พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากหลายบริษัทและผู้คนมากมาย เคยมีคนช่วยเหลือในการซ่อมรถให้ และระหว่างท่องเที่ยวที่เทกซัส ชาวอเมริกันคนหนึ่งให้กล่องสำหรับต้มไข่แก่พวกเขา วิธีใช้คือ วางไข่และน้ำลงในกล่องใบนี้ แล้วนำไปวางในห้องเครื่องยนต์ ความร้อนจากเครื่องยนต์จะทำให้ไข่สุก ถ้ารถวิ่งไป 25 ไมล์ ไข่จะสุกแบบเป็นยางมะตูม แต่ถ้ารถวิ่ง 35 ไมล์จะได้ไข่สุกเต็มที่

“เราใช้กล่องนี้ต้มไข่หลายครั้ง เมื่อเราได้กลิ่นไข่สุก เราจะหยุดรถและกินอาหารกัน”

เฮอร์แมนเล่าอย่างขำๆ เรื่องการเดินทางที่บรูไนว่า คุณไม่มีวันหลงทางที่บรูไน และที่สำคัญคุณเดินทางถึงชายแดนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว กว่าจะรู้ตัวคุณก็เจอชายแดนแล้ว ที่ชอบมากที่สุดคือราคาน้ำมันถูกมาก ประมาณ 20 เซนต์ต่อลิตรเท่านั้นเอง

แต่ถนนแห่งการเดินทางก็ต้องมีวันสิ้นสุด เฮอร์แมนบอกว่า เขาก็อยากจะท่องเที่ยวอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แต่อาจต้องหยุดการเดินทางภายใน 2 ปีนี้ เมื่อแพมป้า ลูกชายคนโตอายุครบ 10 ปี
………………………….
หมายเหตุ : ข้อมูลจากเว็บไซต์ today.com, sparkyourdream.net และ guardian.com

ขอบคุณผู้เขียน – คุณมาริสา