นำทางบันทึก : การจดบันทึกแบบ Bullet Journal
ติดต่อลงโฆษณา
Leaderboard in Content 1st
Fixed 1,000 baht/month
Slot 300 baht/month
Bullet Journal จะช่วยให้การจัดการตารางเวลาของเราได้ดีขึ้นกว่าการจดบันทึกแบบปกติ
Longman and Atkinson หลังจากที่พวกเขาทำการวิจัยก็ได้พบว่าคนเรามีโอกาสที่จะจำข้อมูลจากการได้ยิน 5% แต่ถ้ามีการการจดบันทึกข้อมูลที่ได้ยินมานั้นเราจะมีโอกาสจำได้สูงขึ้นถึง 34%
 
การจดบันทึกก็มีหลายแบบบ และหนึ่งในนั้นก็คือการจดันทึกแบบ bullet journnal ที่กำลังเป็นที่นิยมและเรากำลังจะพูดถึงนั้นเอง
 
ผู้ที่เป็นคนคิดค้นวิธีการจดแบบ Bullet Journal หรือจะเรียกสั้นๆว่า BUJO ก็ได้ นั้นก็คือคุณ Ryder Carroll ทำงานเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและนักเขียน
 
เขาได้คิดค้นการจดแบบ bullet journal หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความบกพรองด้านการรับข้อมูลและนำไปใช้ เขาจึงได้คิดคินวิธีนี้ขึ้นมา
 
การจดบันทึกแบบนี้นั้นต่างจากแบบปกติอย่างไร?
มันเป็นการ“ทบทวนอดีต จัดการกับปัจจุบัน และวางแผนสำหรับอนาคต” ก็คือการบันทึก สิ่งที่เราจะทำ, สิ่งที่ควรทำ, สิ่งที่จะทำในอนาคต
 
การจด Bullet Journal จะมีการจดที่กระชับ ย่อ และเข้าใจง่าย (Rapid Logging) กับ โครงสร้างการบันทึก (Module)
 
ในเรื่องของชื่อหัวข้อ เราจะต้องใส่ชื่อหัวข้อในทุกๆเรื่องที่จะทำเพื่อทำให้การบันทึกง่ายขึ้นและใช้ในการจัดหมวดหมู่ด้วย
และก็ต้องใส่เลขหน้าด้วยเหมือนกันเพื่อให้ค้นหาข้อมูลที่จดบันทึกเอาไว้ง่ายขึ้น
 
โดยใช้การจดแบบ Bullet ก็คือการจดเป็นข้อสั้นๆและเข้าใจได้ง่าย จะสามารถช่วยให้เราสามารถจำเรื่องเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น
 
และเราก็มีเครื่องหมายพิเศษที่จะช่วยในการจัดระเบียบให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยล่ะ
• สิ่งที่เราจะต้องทำ
X งานที่ทำเสร็จแล้ว
> งานที่ยังไม่เสร็จและต้องเลื่อนไปวันอื่น
< งานที่มีกำหนดการ
– การจดบันทึกทั่วไป
o event/กิจกรรม ที่ต้องทำ
* สามารถใช้ใส่สำหรับงานสำคัญที่ตต้องมาก่อนอย่างอื่นได้
 
เรายังสามารถเพิ่มสัญลักษณ์ในแบบของตัวเองได แต่ทางที่ดีอย่าเพิ่มเยอะไปจะดีกว่าเพราะจะทำให้สุดท้ายก็ไม่มีข้อความไหนที่สำคัญเป็นพิเศษเลย
 
เอาล่ะ ทีนี้เราก็จะต้องทำการแบ่ง Module หรือแบ่งโครงสร้างสมุดบันทึกออกเป็น 4 ส่วน
โดยจะมีอยู่หลัๆเลยคือ Index, Future Log, Monthly Log, Daily Log
1.Index หรือที่คล้ายๆกับสารบัญที่มีหน้าที่ในการบอกเราว่าอะไรอยู่ที่หน้าไหนของสมุดบัญทึก
2.Future Log สำหรับจดภาพรวมของสิ่งที่เราจะทำในเดือนนั้นๆ
3.Monthly Log ส่วนที่เอาไว้จดว่าเดือนนี้ต้องทำอะไรบ้าง มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
4.daily log เป็นรายละเอียดของในแต่ล่ะวัน
 
สรุปแล้วมันต่างกับ to do list หรือการจดบันทึกแบบปกติยังไง?
การจด Bullet Journal จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของสิ่งที่จะทำ และทำให้วิเคราะห์ได้ดีกว่า จึงสามารถกำจัดเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไปได้ ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น
 
ส่วนถ้าหากจดบันทึกแบบปกติ หรือ To Do List ทั่วไป ที่จะทำให้เห็นแค่ว่าในวันนี้เราจะทำอะไรบ้างและอะไรสำเร็จบ้างเท่านั้น

by Numthang on May 29, 2021

Posted in ร่องรอยการเรียนรู้

ป้ายคำค้น

ในหมวดเดียวกัน
ป้ายคำค้นเดียวกัน

โปรเจ็กต์ของผู้แต่ง