บันทึกสัมภาษณ์บ้านเรียนนำทาง รายการห้องเรียนฟ้ากว้าง
เป็นรายการสัมภาษณ์บ้านเรียนนำทางในรายการ ห้องเรียนฟ้ากว้าง ThaiPBS จึงลงบันทึกเอาไว้และใช้สำหรับการตอบคำถามของตัวเองด้วยครับ
แนวคำถามจากทางรายการ

1.ทำไมจึงเลือกทำโฮมสคูลให้ลูกแทนการเรียนในระบบโรงเรียน มีแนวคิดหรือเห็นข้อดีอะไรยังไง
 
เด็กๆ ผมไม่ชอบไปโรงเรียนและจากที่สัมผัส เด็ก 90% ไม่น่าจะชอบไปโรงเรียน ความที่แต่ก่อนเป็นเด็กที่เรียนแย่มากๆ ไม่ชอบเรียนหนังสือเอาเสียเลย แต่ไม่มีใครรู้เลยครับว่าผมชอบอ่านหนังสือ แต่ไม่ใช่หนังสือเรียน ทำให้รู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่เราต้องเรียนจากโรงเรียนเพื่อประกอบอาชีพเลย ความรู้ในโรงเรียนมันง่อยมาก ซึ่งจากที่ได้พิสูจน์แล้วเห็นว่าจริง ยิ่งในยุคที่อินเตอร์เน็ตเพิ่งจะเริ่มบูมก็มีความรู้อยู่เต็มไปหมดแล้ว เราจะไปโรงเรียนเพื่ออะไรอีก

2.ได้ข้อมูลการทำโฮมสคูลจากที่ไหน ใครแนะนำ เราต้องมีการหาข้อมูล เตรียมตัวอย่างไร
 
บอกตรงๆว่าตอนนั้นคือประมาณ 14 ปีที่แล้ว ยังไม่มีลูกเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่าถ้ามีลูกเราจะไม่ส่งลูกเข้าโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีข้อมูลใดๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำเรามีกฏหมายโฮมสคูลหรือเปล่า คิดแต่ว่าจะไม่ส่งไปดื้อๆ แบบนั้นแหละ ข้อมูลไม่เคยหาเลย สรุปว่าหลังจากมีลูกถึงวัยโรงเรียน กฏหมายโฮมสคูลในเมืองไทยก็เริ่มมีแล้ว ก็เริ่มจากไปร่วมกลุ่ม Homeschool Network ซึ่งเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่เข้าไปร่วมช่วยกันก่อตั้งเลย ก็ช่วยกันทำกลุ่ม ช่วยกันตอบให้ข้อมูล จนกระทั่งมาทำเว็บไซต์ให้กับกลุ่ม

3.หลังตัดสินใจทำโฮมสคูลคนรอบข้างมองเรายังไง เจอคำถามอะไรมาบ้างไหมคะ เช่นทำไมไม่ไปโรงเรียน
 
ก็ปกตินะฮะ มองยังไงไม่รู้ แต่แอบนินทาน่ะ มีแน่ๆ ส่วนคำถามก็คงประมาณว่าแล้วเด็กจะมีสังคมไหม อ่านหนังสืออย่างไร เค้าจะเหงาหรือเปล่า ถ้าเค้าอยากเรียนหมอ วิชาชีพหล่ะ จะทำอย่างไร เค้าอาจจะอยากไปหรือเปล่า แต่พ่อไม่ส่งไปโรงเรียน 

4.ตั้งแต่จัดบ้านเรียนเจอปัญหาอะไรบ้าง มีวิธีรับมือแก้ไขอย่างไร
 
คงจะเป็นเรื่องของการที่เราไม่ค่อยมีเพื่อนน่ะ น่าจะเป็นปัญหาคลาสสิคที่หลายบ้านพยายามอุดช่องว่างตรงนี้ด้วยการพาเด็กไปนู่นไปนี่ ไปพบเด็กโฮมสคูลด้วยกัน เราก็ทำนิดหน่อย แต่ด้วยฐานะไม่น่าจะอำนวย ก็ไม่ได้ทำอะไรเท่าไร สุดท้ายวันนี้ที่ผมย้ายมาราชบุรีนี่คือ มีเพื่อนเป็นเด็กในหมู่บ้านแก๊งใหญ่แล้วครับ ชีวิตก็ลงตัวไปเลย สิ่งที่เรากังวลมีแค่นี้ เพราะรู้ว่าเด็กๆ อยากมีเพื่อนเล่นแน่ๆ แต่การไปโรงเรียนไม่ใช่คำตอบไง

5.ตอนนี้ลูกกำลังสนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษคะ ส่งเสริมอย่างไร เรียนรู้เรื่องใดบ้างจากกิจกรรมที่ทำ
 
ตอนนี้เด็กสนใจวาดรูปอนิเมะ คงเป็นเพราะว่าไปติดเกมออนไลน์อยู่ตัวนึง ที่บ้านจะมีการจำกัดการใช้เทคโนโลยีอย่างเล่นเกม ดูการ์ตูน ไม่เกิน 1 ชม. ต่อวัน ก่อนนี้ก็ชอบวาดรูปบนมือถือ ช่วงนี้ได้โน็ตบุ๊คมาใหม่แบบ Tablet ที่ใช้เน้นวาดรูปมากกว่า ก็เข้าทางเขาเลย ไปหาอ่าน หัดลงซอฟต์แวร์ หัดใช้งานทุกอย่างด้วยตัวเอง ในขณะที่ไม่เคยแนะนำหรือสอนให้ทำอะไรเลย เค้าก็บอกว่าก็เป็นลูกโปรแกรมเมอร์ก็ต้องทำทุกอย่างได้เอง (หัวเราะ) เค้าอยากได้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ ก็ดูแล้วราคาไม่แพงก็จะซื้อให้ใช้ครับ ส่วนที่ผมอยากให้ทำคือพวกชีวิตประจำวันที่ต้องพึ่งพ่อแม่ ต้องทำเองได้เช่น ทำกับข้าว ก็สอนเขาทำเพราะที่บ้านทำอาหารทานเองเป็นประจำอยู่แล้ว

6.ในการประเมินของบ้านเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องทำอะไร คุณลูกต้องทำอะไรบ้าง
 
ก็ทำรายงานการประเมินสิ้นปีแล้วเขตมาประเมินที่บ้าน หลังๆ เราก็ไปประเมินที่เขตแล้วแต่ความสะดวก ก็ให้เด็กที่โตแล้วหน่อยเขียนร่องรอยการเรียนรู้เองครับ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาในการพูดคุยกับเขต

7.สำหรับตารางเรียนรู้หรือกิจกรรมในแต่ละวันเราทำอะไรกันบ้าง (อาจให้เด็กเล่าว่าตื่นเช้ามาทำอะไรบ้างจนกระทั่งเข้านอน)
 
ตารางไม่มีครับ การเรียนรู้ของเราถ้าเป็นตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้ให้ทำอะไรเป็นพิเศษเลย พอโตขึ้นอย่างคนโต ป.6 ก็เพิ่มจะเริ่มให้หัดพิมพ์ดีด เขียนรายงานร่องรอยลงบนเว็บไซต์ ส่วนใหญ่เค้าก็เขียนเรื่องทำอาหาร เคยหัดวาดภาพสีน้ำตามแม่ ผมเอาหนังสือให้เขาอ่าน และที่สำคัญคือเน้นการพูดคุยกับลูกมากกว่า ผมสอนให้ลูกตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวทั้งหมดทุกเรื่อง เขาจะได้ความรู้จากพ่อเยอะมากเพราะผมชอบคุย
 
8.เมื่อโตขึ้นลูกฝันอยากเป็นอะไร มีวางแผนหรือคุยกันไว้ไหม
 
ยังไม่มีครับ ผมตั้งเป้าไว้ว่าอยากให้เขาหัดเขียนโปรแกรม เนื่องจากว่าเป็นความรู้ที่ผมพอแนะนำได้และมันเป็นสิ่งที่ตลอดต้องการ

9.จากการลงมือทำบ้านเรียนให้ลูก เราคาดหวังอะไรไหม วันนี้เราเห็นผลลัพธ์อะไรบ้างแล้วหรือยัง
 
คาดหวังให้เด็กสามารถหารายได้แบบผู้ใหญ่ได้ ตั้งแต่อายุ 18 แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไร เพราะยังไม่ได้สอนวิชาชีพเลย 

10.มีช่องทางการติดตามการทำบ้านเรียนของเราทางไหนอย่างไรบ้าง
 
ผมเขียนบันทึกการสนทนาบ้างบน Facebook ส่วนตัวครับ และมีการเขียนร่องรอยการเรียนรู้ออนไลน์บนเว็บไซต์ Homeschool Network ครับ ใครๆ ก็เข้ามาอ่านได้ ก็อยากแนะนำให้มาลองใช้กันดูครับ เขียนแล้วมันก็เย็บเล่มเป็นรายงานสิ้นปีให้เลยเรียบร้อย

11.ฝากข้อคิดด้านการศึกษา/ให้กำลังใจเพื่อนบ้านเรียน
 
การศึกษาไม่ใช่สิ่งที่ต้องไปสอนเด็ก สิ่งสำคัญคือการเตรียมพื้นฐานให้เด็กมีความสามารถศึกษาเองได้ กระหายที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอแต่คนป้อนวิชาให้ ซึ่งการเรียนการสอนแบบนี้ไม่มีในบ้านเรา จบมหาลัยแล้วยังทำอะไรไม่เป็นเลย / พ่อแม่บ้านเรียนต้องหาข้อมูลอ่านหนังสือให้มากๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เพื่อจะก้าวเดินต่อไปอย่างไม่หวั่นไหวครับ
 
 

by Unnop on Nov 11, 2019

Posted in เรื่องเล่าโฮมสคูล

ป้ายคำค้น

ในหมวดเดียวกัน
ป้ายคำค้นเดียวกัน

โปรเจ็กต์ของผู้แต่ง